ผู้ติดตาม

E-Book เรื่องใดที่ท่านต้องการซื้ออ่านมากที่สุด (20-30ตอนจบในเล่ม)

แจ้งเตือนผู้อ่านทุกท่านนะครับ ถ้าอยากให้ Blog เราอยู่ได้ กรุณาอย่านำลิงค์ของฺBlogเราไปโพสตามเว็บเพจอื่น เพราะBlog เราอาจถูกแจ้งปิดได้เหมือนหลายๆเว็บที่โดนปิดแล้ว

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ballbusting 2


















วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เฉือนกระชากพวง BY hoosama


เฉือนกระชากพวง BY hoosama

"ติ๊ง!" เสียงลิฟท์เปิดออก

แพรว หญิงสาวใส่แว่นหนาเตอะ ในมือถือเอกสารและหนังสือเล่มใหญ่ เดินเข้าไปในลิฟท์ เธอเป็นนักศึกษาแพทย์
ภายใต้ลุคเด็กเนิร์ดแก่เรียนนั้น กลับเป็นหญฺิงสาวหน้าตาสะสวย ทรวดทรงองเอว อยู่ในวัยเจริญพันธุ์

ภายในลิฟท์มีผู้ชายอยู่ 3 คน สูง รูปร่างดี พวกเขาเป็นนายแบบชื่อดัง
คนหนึ่งรูปร่างสูงกำยำใส่เสื้อกล้าม น่าตาหล่อเหลาท่าทางจะเป็นลูกพี่ของกลุ่ม
อีกสองคนอายุน้อยกว่าเล็กน้อย รูปร่างสูงทั้งคู่ มัดกล้ามดูดีแบบนายแบบ
กลิ่นสาปเหงื่อของพวกเขาหลังจากเล่นเวทเทนนิ่งเสร็จฟุ่งไปทั่วลิฟท์

"พึ่งกลับจากเรียนเหรอครับ"เสียงจากด้านหลังของหญิงสาวดังขึ้นทำลายความเงียบ
"ค่ะ" หญิงสาวพูดไม่หันไปตอบ แต่ก็สัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้ด้านหลังจนเกือบถึงตัวเธอ หญิงสาวรีบหันไปด้วยความไม่พอใจ

"ไปปาร์ตี้กับพวกผมมั๊ยครับ" ชายที่เป็นลูกพี่พูดเมื่อหน้าของเธอหันไป
"ไม่ค่ะ!"หญิงสาวพูด พร้อมขยับตัวหนี ไปชิดข้างลิฟท์
"เฮ้ย...ผมเกลียดการถูกปฎิเสธ"ชายดังกล่าวตามไป มือค้ำที่ทั้งสองผนังลิฟท์ระหว่างตัวเธอกั้นหญิงสาวไว้ไม่ให้หนีไปอีก
หญฺิงสาวไม่ทันได้ตอบลิฟท์ก็เปิดออก ชายหนุ่มดึงเธอเข้าไปในห้องของพวกเขา
=======================================================

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ระวัง นักฝึกสัตว์สาว อันตราย 1


ณ อาพาตเม้น  ห้อง 305 ซี แอตเทิล

         เวลา 9.53 นาที แจ๊ค ฉ่อง นายตำรวจของ พีดี ซีแอตเทิล อายุ 27 ปี หน้าตาหล่อเหลาคมแคม ดวงตาสีทองอ่อน ทำเดินออกมาจากห้องครัว พร้อมกับถ้วยกาแฟน้ำในมือขวา ที่พึ่งชงออกมา สดๆ ร้อนๆ เขาจิบมันก่อนครั้งหนึ่ง ก่อนจะนำมันมาวางไว้ตรงโต๊ะใกล้กับโซฟาตรงกลางห้อง เขาเดินไปที่ประตูกระจก เปิดออกไปยังระเบียงข้างนอกห้อง เพื่อตรงไปยังขอบผนังของระเบียงที่อยู่ทางชั้นบนเหนือห้องของเขา

         แจ๊คอยู่สภาพเปลือยท่อนบนจนหมด เปิดเผยให้เห็นถึงรูปร่างกันสวยงาม แข็งแรงบึกบึนของเขา แจ๊คมีลอนกล้ามที่สวยและยังเหมาะสมกับรูปร่างไม่ใหญ่เท่อทะจนเหมือนสัตว์ประหลาด หรือเล็กจนดูหน้าเกลียดจนเกินไป เมื่อมาถึงเขาก็กระโดดใช้มือทั้งข้างคว้าขอบด้านบนของมันไว้ ก่อนจะใช้แรงแขนของตัวเองทั้งหมด ดึงร่างของตัวเองขึ้นมา เขากำลังใช้มันเป็น บาโหนราวเพื่อออกกำลังกายตอนเช้า

ตื๊ด..................ตื๊ด..............ตื๊ด
ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เรียกสมาธิของเขาไปที่มัน

                 “ฮัลโหล ที่ผม แจ๊ค พูด”แจ๊คคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงตู้ชั้นวางใกล้ๆกับโทรทัศน์

      “แจ๊ค รีบมาด่วนเลย มีคดีเกิดขึ้นแล้ว”เสียงของผู้หญิง ดังออกมาจากมือถือ

      “เอ่อ ผมขอทำความเข้าใจใหม่นะนี่ผมกำลังอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อนไม่ใช่หรือ?”แจ๊คถามเพื่อยำเตือนความจำของผู้หญิงคนนั้น เมื่อวานเขาต้องนั่งเช็คเอกสารคดีเก่าๆ ที่ยังแก้คดีไม่สำเร็จอยู่ทั้งคืน เขายังรู้สึกเหนื่อยอยู่หน่อยๆเลย

                 “คงทำงั้นไม่ได้ แจ๊ค คดีนี้เรื่องด่วนมากนะ ฉันต้องการให้คุณไปในที่เกิดเหตุเดียวนี้”ผู้หญิงในมือถือพูดเสียงแข็ง

                 “……ตกลง เดี๋ยวผมจะรีบไป”แจ๊คพูดก่อนจะวางหูมือถือ เฮ้อเขาเกลียดงานนี้ชะมัด ประมาณ 5 เดือนที่แล้วเขายังเป็น บอดี้การ์ดให้กับนายธุรกิจชื่อดัง เจ้าของกิจการโรงน้ำมันระดับพันล้านอยู่เลย โอ พระเจ้า เขารักงานนั้นสุดๆ งานง่ายๆ แค่คอยเดินตามแล้วก็ยืนอยู่เฉย ให้ครบ 1 วัน งานง่ายๆ เงินเดือนก็เยอะ แถมยังได้วันหยุด 2 วัน เต็มๆด้วย ที่สำคัญต่อให้เกิดเหตุร้ายขึ้น งานเป็นพระบู๊ ลุยแหลก แลกลูกปืน ฝ่าดงกระสุนเป็นงานถนัดของเขามาก เขาชอบที่จะได้ สัญชาตญาณ ในการต่อสู้ มันช่วยลับคมทักษะต่างๆที่เขาเคยฝึกฝนมา

แต่มาดู ณ ตอนนี้สิ เมื่อก่อนเขามี คอนโคห้องใหญ่ๆ หรูหราให้อาศัยอยู่ แต่ตอนนี้ห้องมาอยู่ อาพาตเม้นราคาถูก  ทั้งคับแคบแถมยังร้อนตับแลบอีกตังหาก เคยมี รถโรเซอร์รอยสวยๆขับ ตอนนี้ต้องหันมาขับรถเก๋งถูกๆ เคยไปนั่งกิน สเต็กที่ร้านราคาแพงได้บ่อยตามเท่าที่ต้องการ เดี๋ยวนี้ทำได้แค่ นั่งกินอยู่ร้านโดนัท หรือไม่ก็รับประทานแค่ แพนเค้กกับเบค่อน 1 ชิ้น ก็สุขโขเต็มที่แล้ว เมื่อก่อนงานรายได้งาม ซื้อของเท้ากับสูทหรูราคาแพง แต่ปัจจุบันทำงานห่ามรุ่งหามค่ำแค่พอจ่ายค่าเช่าห้องได้ก็ดีถมถื่นแล้ว

     แจ๊คใช้เวลาประมาณ 20 นาที จนขับมาถึงที่เกิดเหตุ มันเป็นบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งในหมู่บ้านในเมือง ซี แอตเทิล มีรถตำรวจจอดเปิดหวออยู่ 2 คัน กับ รถมอเตอร์ของตำรวจตรวจตราประจำทางอีก 1 คัน มีรถตู้ขนศพ มาจอดรออยู่ริมด้านขวาของตัวบ้าน มีการนำเส้นสีเหลืองมากั้นคนนอกไม่ให้มายุ่งในตัวบริเวณที่เกิดเหตุ กำลัง ตำรวจและนักสืบอีกประมาณ 4-5 คน แจ๊คลงออกมาจากรถ พบตำรวจสองคนในกรมเดียวกัน คนหนึ่งเป็นชายผิวสีคนใหญ่กับตำรวจหญิงอีกหนึ่งคน

                                    “เกิดอะไรขึ้น...?”แจ๊คถาม

                                    “บังเอิญเจ้าของบ้าน โทรมาแจ้งมามีคนตายในบ้านเธอ”ตำรวจผิวดีกล่าว
 โทษทีนะ ผมมาช้าไปหรือเปล่า....?

ทันใดนั้นเองมีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างสูงพอเหมาะ ผมสีดำเป็นเส้นยาวๆแหลมฉีกไปมาเหมือนกับพวกเกาหลี เขาหน้าตาละอ่อน หล่อเหลาประมาณ 20 ต้นๆ ในชุดสูทสีกาทีสวมทับกับเสื้อเชิ้ตสีฟ้า คนชื่อว่า ลี เดียน คู่หูนักสืบของ แจ๊ค

                                  “พวกคุณมาก็ดีแล้ว มาดูนี่เร็วเข้า ผมว่านี่ต้องทำให้พวกคุณสนใจแน่ๆ”นายตำรวจผิดสีนำทั้งคู่มาจนถึงระเบียงทางบันใดขึ้นไปทางชั้นบน มีศพถูกคลุมไว้ด้วยผ้าพลาสติกสีขาว
                                                                                     
            “รายที่ 4 แล้วของเดือนนี้”นายตำรวจผิวสีพูด

                                 “สภาพเป็นไง?”แจ๊คถามพร้อมกับก้มคุกเข่าข้างหนึ่งลงไปใช้มือเลิกผ้าคลุมศพเปิดออกดูสภาพที่เหลือของศพ  

            “เอ่อ..ผมว่าพวกมันไม่ค่อยอยากดูนักหรอก”นายตำรวจผิวสีเตือนแต่สายไปเสียแล้ว
แจ๊ค กับ ลี มอง สภาพศพแล้วต้องถึงกับเบือนหน้าหนี โดยเฉพาะลีทำท่าเหมือนสยองสุด ศพเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 23 ปี ถูกทำให้สภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ร่องลอยถูกเชือดคอแล้วปล่อยให้ตาย ที่สำคัญกว่านั้นคือ

                            “เอ่อ....ขอโทษนะ ไอ้....ไอ้นั่น...ของเขามัน”ลีกระอักกระอวนจะพูด

            “หายไป ใช่ เรื่องนั้นเรารู้แล้ว”นายตำรวจผิวสีพูด

            “ฆาตกรคนเดียวกันหรือเปล่า...?”แจ๊คถาม

                          “รายนี้เหมือนกับ 2 รายแรก ยกเว้น รายที่ 3 ไม่เหมือน แต่ดูจากวิธีและรูปแบบ เอกลักษณ์ของการฆ่า แล้วการมาทิ้งศพแล้ว น่าจะเป็นคนๆเดียวกัน เราจะส่งศพไปให้หมดทำหน้าที่พิสูนจ์เดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามนะ ผมว่าเรากำลังเจอ ฆาตกร โรคจิตที่ชอบสะลมของแปลก”ตำรวจผิวสีกล่าวก่อนจะเดินออกไป

                              “คนที่พบศพ บอกแล้วใช่มั้ยว่า ไม่รู้จักกับเหยื่อน่ะ”แจ๊คถาม
ภาพตัดไปที่ ทั้งลี และ แจ๊ค กำลังสอบสวน พอลล่า ผู้หญิงวัย 33 ปี ที่เป็นคนแรกที่พบศพ กับ เจมส์ สามีของหล่อน

                               “เอาล่ะ พูดยืนยันแล้วนะว่า คุณ ไม่ได้มีความรู้จัก หรือเกี่ยวข้องอะไรกับ เหยื่อรายนี้”แจ๊คถาม

                        “ไม่ค่ะ ไม่เลย เราไม่เคยรู้จักเขามาก่อน”พอลล่าตอบ

                               “ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าหรือ?”ลีย้ำถาม

                              “ไม่ค่ะ เราเจอเขา ก็กลายเป็น อย่างนั้นไปแล้ว”พอลล่าตอบอีกครั้ง 
     
            “มีคนที่เป็นเพื่อนบ้านคุณบอกมาว่า เมื่อคืนตอนประมาณ ตี 3.01 นาที เขาได้ยินเสียงเหมือนกับรถมาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านคุณ เมื่อคืนพวกคุณอยู่ไหน?”แจ๊คถาม

                               “คือว่า ผมกับภรรยา เราเพิ่งกลับมาจากการพาพวกลูกๆ ไปเที่ยวที่ทะเลสาบ นอกเมือง แล้วเราเพิ่งขับรถกลับมาถึงบ้านได้ตอน 9 โมง พอลล่า เธอเป็นคนแรกที่พบว่ากระจกของบ้านเราแตก และพอเธอเข้าไป เธอก็เจอศพนอนตายอยู่นั่น”เจมส์อธิบาย

                             “พวกคุณไม่อยู่บ้าน แล้วที่นี่ไม่มีสัญญาณกันขโมยเลยหรือ?”แจ๊คถาม

                  “ไม่ครับ หมู่บ้านเราเป็นผู้บ้านที่ สงบมาก ไม่เคยมีเรื่อง ขโมยเกิดขึ้นเลย อีกอย่างหมู่บ้านของเราเป็นผู้บ้านเล็กๆ การติดสัญญาณกันขโมย อาจจะเกิดการผิดพลาด จนเกิดเสียงดัง จะพากันทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านละแวกนี้พากันแตกตื่นกันไปหมด”เจมส์อธิบาย
    
     เมื่อการสืบสวนไม่มีความคืบหน้า แจ๊ค กับ ลี จึงได้ตัดสินใจขับรถไปที่โรงพยาบาล ของ คุณ หมอ โจ พิริแกน ที่รับหน้าที่ชันสูตรศพ พวกเขาเข้าไปในห้อง พบนางพยาบาล ผมน้ำตาลดำขับสลวยที่ผูกเป็นหางม้า นั่งรอรับผู้ป่วยอยู่ เธอคือ อาแมนดร้า พิริแกน ภรรยาสาวของโจ ในชุดนางพยาบาล กระโปงสั้นดูเย้ายวน
                      
          “สวัสดีครับ อแมนดร้า โจอยู่ใช่มั้ย”แจ๊คถาม

                       “ค่ะ นี่คุณ แจ๊ค กับ คุณ ลี สินะคะ เดินตามมาทางนี้เลยค่ะ โจ เขากำลังทำการชันสูตรศพของเหยื่อรายใหม่อยู่พอดี เขาตื่นเต้นทุกครั้งแหละ เวลาได้ใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับศพ ไม่รู้ว่าเค้าโรคจิต หรือเป็นชั้นเองกันแน่ ที่หลงไปรักคนอย่างเขาได้”อาแมนดร้าชอบบ่นเรื่องสามีของเธอเป็นประจำ

                      “เหยื่อเป็นของ ฆาตกรคนเดียวกันสินะคะ”อาแมนดร้ากล่าว

          “ครับ เราคิดว่างั้น”ลีตอบ

                      “น่าสงสารจัง แต่ชั้นชอบนะ ถ้าฉันจับได้ว่า โจ มีชู้ละก็ วิธีการนี้ ฉันอาจจะใช้เป็นไม้เด็ดในการจัดการเขาก็ได้” อาแมนดร้ากล่าวก่อนจะเดินนำทั้งคู่ไปที่ห้องทำงานของโจ

                         โจ เป็นแพทย์หนุ่มอายุ 20 ปีปลายๆ ใกล้จะสามสิบ เขาเรียนจบมาจาก มหาลัยแพทย์ชื่อดังใน ชิคาโก จบแล้วก็มาเป็นหมอรักษาคนไข้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับอวัยะภายใน พร้อมกับรับหน้าที่ ชันสูตรศพไปด้วยในตัว เป็นทักษะสาขาทางเลือกที่เขาชื่นชอบและเก่งไม่แพ้กับสาขาหลักที่จบมา

ภายในมีศพชาย ที่เป็นเหยื่อ คนที่ 4 นอนอยู่บนเตียง

                     “อ้าว....! สวัสดี แจ๊ค แล้วก็คุณลี มาได้จังหวะผมกำลังได้สมมุติฐานอย่างแรกออกมาพอดี”โจหันมาบอกกับทั้งคู่ เมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามาในห้อง

                    “งั้นฉันไม่รบกวนแล้วนะคะ”อาแมนดร้าเดินออกไปจากห้อง

                    “ไหนลองบอกสมมุติฐานอย่างแรกให้พวกเราฟังหน่อยสิ หมอ”แจ๊คพูด

                    “อย่างแรกเลย ข้อมือและข้อเท้าของเหยื่อมีรอยเปื้อนเลือดสีแดงเป็นเส้น แสดงว่า เหยื่อน่าจะถูกมัดไว้ด้วยเชือก สอง พบรอยฟกช้ำสีม่วงคล้ำที่มือและข้อเท้าทั้งสองข้าง แสดงว่าเหยื่อถูกคนแบกมา อย่างน้อยๆ ก็ สองคน สาม แผ่นหลังของเหยื่อมีรอยผิวหนังถลอก แสดงว่าคงถูกลากหรือโยนทิ้งไว้อย่างไม่ระมันระวัง จากที่เห็น นั้นคือสาเหตุที่เราไปพบศพที่อื่น หมายว่า ศพคงถูกทรมานและฆ่าให้ตายอีกที่หนึ่ง แล้วถูกนำมาทิ้งไว้อีกที่หนึ่ง ไม่ใช่ที่เดียวกัน”โจบอก

                    “หมายความว่า ถูกฆาตกรคนๆเดียว ฆ่า แต่มีคนอื่นอยู่ด้วย อย่างเช่นมีการสมรู้ร่วมคิดกันใช่มั้ย?”แจ๊คถามด้วยน้ำเสียงสงสัย

                    “ผมว่าใช่ ตัวเหยื่อไม่ได้ถูกทรมานอะไรมากมาย นอกจากที่คอ และส่วน ตรงนั้นน่ะนะ ผมว่าเหยื่อแค่ถูกนำไปทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่ใช่การทรมาน เหมือนกับการไต่สวน หรือรีดเค้นข้อมูลอะไรสักอย่าง แต่ที่เราสามารถสรุปได้ 3 อย่างก็คือ 1. เหยื่อที่พบทั้ง 4 ราย ตายด้วยการถูกใช้มีดเชือดคอจากริมคอด้านซ้ายไปด้านขวา แสดงว่า ฆาตกรต้องเป็นคนถนัดขวา หนำซ้ำแรงกดบนตัวเนื้อนั้นค่อนข้างลึกและใหญ่ แสดงว่าต้องเป็นผู้ชาย ตัวค่อนข้างโต และสุดท้าย 3 ฆาตกรคนนี้เลือกเหยื่อ เห็นได้จากจะเกิดแค่ทุกๆ 1 ศพ ห่างกันแค่ 1 สัปดาห์ แต่ที่มันแปลกก็คือ โดยพฤติกรรมส่วนใหญ่ของพวก ฆาตกรต่อเนื่องจะถือว่า งานฆ่าของตนเองมีศิลปะ และจะไม่ฆ่าในระยะห่างที่ถี่ขนาดนี้ แต่ยังไงก็ตาม คนฆ่าคนมี รสนิยมและเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจน เห็นได้จากลักษะการฆ่า และ ที่ไอ้นั่น ถูกเอาไป ผมสันนิฐานว่ามันเป็น ไอ้โรคจิตตัวพ่อ ที่อาจมีความจำฝั่งลึกฝั่งใจในอดีต หรืออาจจะเป็นความชอบส่วนตัวก็ได้”โจอธิบาย

                     “แต่สายที่ 3 ไม่เหมือนกันนี่น่า”แจ๊คพูดขัดขึ้น

                    “โอ้ ใช่จริงด้วย คือว่าเรื่องนั้นยังเป็นเงื่อนงำอยู่อะนะ ขอผมใช่เวลาตรวจสอบดูอีกหน่อยแล้วกัน”โจพูด

                     “โอเคหมอ ไว้ได้อะไรคืบหน้าแล้ว คุณช่วยบอกผมด้วยละกัน”แจ๊คพูด

  ณ สถานนี่กรมตำรวจ ซีแอตเทิล

     คนในกรมต่างๆกำลังทำการสมมุติฐานกัน และภายในนั้น มีชายหนุ่มวัยประมาณ 30 กว่า ในชุดสูทหรูสีดำที่สวมทับกับเสื้อเชิ้ตสีแดง กำลังอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ รูปของศพทั้งสี่คนอยู่ ในกระดานดำ 
ชอวน์  ไทเลอร์ หัวหน้าหน่วยกรมสืบสวนของ ซีแอตเทิล

                      “เอาล่ะ ทางเราทราบว่า ตอนนี้เราพบศพของผู้เคราะห์ร้ายแล้ว 4 คน ทั้งหมดเป็นชายหนุ่ม อายุราวๆ 21-28 ปี ถูกฆ่าด้วยการถูกปาดคอ และ เจ้าโลกของพวกเขาทั้งหมดหายไป”ชอวน์บอกกับทุกๆคน

                       “คุนพูดว่า เจ้าโลก หรอ?”ลีถามซ้ำอย่างนึกขัน

                      “คุณอยากจะให้ผมพูดคำ หยาบหรือไง คุณ ลี ในเมื่อคุณรู้อยู่แล้วว่ามันหมายความว่าอะไร”ชอวน์ถาม ลีก็เงียบปากไม่พูดอะไรอีก

                      “เราพบ ศพแรก ในวันที่ 8 สิงหาคม ที่ แค็พแลนด์ ศพที่สองในวันที่ 17 สิงหาคม ที่ แคนสัท ศพที่สามในวันที่ 25 สิงหาคม ที่ แอตตาแลนตร้า และเหยื่อรายล่าสุด ในวันที่ 3 กันยายน ที่ ซีแอตเทิล ทำให้เราสามารถเดาได้ว่า ผู้ร้ายอาจจะยังตะลอนอยู่ในเมืองแถวๆนี้ และตามเมืองต่างๆ ใกล้กัน”
ชอวน์บอก

                       “ผมต้องการให้พวกคุณทุกคน แบ่งทีมแยกย้ายกันไปสืบสวน เมืองต่างๆ ณ จุด เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง ลองสอบถามผู้พบศพอีกครั้ง เผื่อได้อะไรเป็นเบาะแส”ชอวน์กล่าว

                       “เดี๋ยวก่อนครับ จากที่ผมสังเกตได้ว่า เราได้พบผู้ตาย ต่างสถานที่ และมาจากแต่ละเมืองกัน แม้จะเป็นที่ติดกัน แต่ผมเดาว่า ตัว ฆาตกรอาจไม่มีหลักแหล่งที่พักพิง ที่ชัดเจน มันอาจเลือกเหยื่อ จากการเดาสุ่ม หรือแค่พบเจอกับเหยื่อโดยบังเอิญ การออกไปตามหาอาจจะใช้เวลาเกินไป ฆาตกรอาจจะหนีไปลงมือที่อื่นอีก”ลีพูดขัด

                         “ทำไมคุณคิดอย่างนั้น คุณนักสืบลี?” ชอวน์ถาม   

                         “เพราะฆาตกรคนนี้ ลงมือฆ่าเหยื่อ โดยห่างกันแค่ไม่เกิน อาทิตย์ นี่อีกแค่ไม่กี่วันก็จะครบอาทิตย์แล้ว ผมเดาว่าต้องมีเหยื่อรายที่ 5 ตามาแน่นอนครับ”ลีพูด

                          “งั้นพวกคุณจะรออะไรอยู่ล่ะ รีบไปออกสืบหาซะสิ”ชอวน์ตะวาดขึ้นเสียงดังทำเอาทุกคนต้องรีบลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปสืบหากันยกใหญ่

         “โอ้ แจ๊ค ผมอยากให้คุณอยู่นี่นะ เพื่อมีใครแจ้งอะไรมาอีก มันพึ่งฆ่าศพที่ 4 ไป ผมคิดว่ามันคงไม่หนีไปไหนออกจากเมืองเร็วนักหรอก เพราะตอนนี้ทางเราได้ ขอความร่วมมือจากกรมตำรวจหน่วยอื่นให้ช่วยระดมพล ออกตามสืบแล้ว มีนักตำรวจมอเตอร์ไซด์ลาดตะเวนและหน่วยดักจับตามทาง ตรงที่ออกเมือง ผมว่าฆาตกรคงยังไม่กล้าหนีไปไหนแน่”ชอวน์บอกกับแจ๊คขณะเห็นเขาทำท่าจะลุกออกไป เฮ้อ....เขาเกลียดการรอคอยอย่างน่าเบื่อชะมัด

       เวลาประมาณ 7.30 นาที ของช่วงเช้าอีกวัน ณ ร้านอาหาร  Dinner Dent ตรงปั๊มๆ หนึ่งใกล้ๆกับ ทางกลับอาพาตเม้นของ แจ๊ค มันเป็นร้านโปรดของแจ๊ค ที่เขาต้องแวะเขาไปกินข้าวเช้าเป็นประจำ แจ๊คใช้เวลาเมื่อวาน ถึงตีสอง อยู่รอแต่ในกรม และก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของคดีที่คืบหน้า เขานั่งทานอยู่ที่โต๊ะหมายเลข 4 ตรงกับ เคาเตอร์ยาว ที่มีเจ้าของร้านเป็นลุงแก่ตัวอ่อนๆ นั่งเงยหน้าดูทีวีเกี่ยวกับข่าวของการเมืองทั่วไป แจ๊คสั่งอาหาร เช้า เป็น ไข่ดาว ชีส ขนมปังแผ่น  มันฝรั่งเล็กน้อยและ เบค่อน กินคู่กับ กาแฟดำเหมือนกับทุกๆครั้ง พร้อมกับนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับขาวกีฬา แจ๊ค โปรดปราน กีฬา อเมริกันฟุตบอลอย่างทีม ซีแอตเทิล ฟอนคอน และทีมเบสบอลอย่าง ชิกาโก้ไวท์ซอกซ์ และทีมบาสอย่าง บรู๊คลีน เน็ต ทีมจากเมืองเก่าที่เขาเคยอาศัยอยู่ตอนยังทำงานเป็น บอดี้ การ์ด แม้จะย้ายมาอยู่ ซี แอตเทิล แล้วเขาก็ยังไม่เปลี่ยนใจเชียร์ทีมอื่นอย่าง โอกาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์

                             “เติมกาแฟอีกหน่อยมั้ยคะ แจ๊ค?”พนักงานเสริฟ์หญิงร่างท้วมถาม

                              “ก็ดีครับ มาธาร์”แจ๊คตอบพร้อมกับอมยิ้ม เขาค่อนข้างจะชอบหล่อน เพราะเจ้าหล่อนเป็นพนักงานเสริฟ์ที่ใจดี และคุยสนุกเป็นมิตรกับคนอื่นๆ ไม่คอยเอาแต่พูดจาถามเหมือนกับกระโชกโฮกฮาก       

                              “วันนี้ไม่รีบไปทำงานหรือไง แจ๊ค”เจ้าของร้านถามเขา

           “ไม่ล่ะ วันนี้ผมกะจะเข้าไปสายหน่อยนะ ทอม”แจ๊คตอบกลับ และในขณะเปลี่ยนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่นั่นเอง เขาพบว่ามีใบ โบชัวร์เป็นรูปของชายหน้ายาวไว้หนวดในชุดหัวหน้าคณะละครสัตว์ยืนกลางมือออกพร้อมกับคทาด้ามยาวในมือขวา ด้านหลังมีรูปสัตว์ป่าหลายชนิด ทั้ง สิงโต ช้างและยีราฟ ด้านล่าง เขียนไว้ว่า ทัวร์โชว์การแสดงละครสัตว์ “Gazise Circus” 
            
           “ที่ ซี แอตเทิล มีคณะละครสัตว์มาเปิดโชว์ด้วยหรือไง ทอม?”แจ๊คถาม

                         “อ้อ คณะละครสัตว์นั่นใช่มั้ย มันมาตั้งเต็นท์อยู่ห่างออกไปจากนอกเมืองนี้อยู่ประมาณ 14 ไมล์ ห่างออกไปจากนี้น่ะนะ ประมาณ 1 อาทิตย์ได้แล้วละมั๊ง  ช่วงนั้นมีคนพวกขาจอน พาครอบครัวมา อุดหนุนร้านผมกันเยอะเลยล่ะ น่าเสียหายจริงๆ ที่มันไม่ได้ตั้งอยู่ตรงนั้นไปตลอด”ทอมเล่าให้แจ๊คฟัง

        แจ๊คพลิกใบโบชัวร์ด้านหลังดู แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นรูปของสาวสวยผมสีดำยาวสลวยถึงกลางหลัง ในชุดสูททักซิโดที่กรมท่าสุดเซ็กซี่ที่สวมทับกับเสื้อเชิ้ตขาวและกางเกงขาสั้นที่ตัดเป็นรูปโค้งเว้า โชว์สัดส่วนของอิสตรีของผู้หญิงได้อย่างชัดเจนภายในถุงน่องยาวสีน้ำตาลเข้ม หล่อนยิ้มขณะขยับหมวกทรงสูงสีเข้ากับชุด และมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า “พบชอบการแสดงของเหล่าสัตว์ป่า ทั้ง เสือ เสือดาว และสิงโต กับ เชอร์ลีน ไช่ นักฝึกสอน ควบคุม สัตว์ ที่มากพรสวรรค์ที่สุดของโลก”แจ๊คหย่อนปากยอมรับในความสวยของหล่อน และในขณะนั้นเองเสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น

                            “ฮัลโหล นี่แจ๊คพูดสาย”แจ๊คพูดในมือถือ

            “นี่ผมเอง โจ นะ ให้ตายเถอะผมนี่ โง่จริงๆเลย”โจพูดขึ้นเสียงดัง

                            “เรื่องอะไร โจ”แจ๊คถาม

                     “ก็เรื่องของ ศพของเหยื่อ 4 คนที่ เราเจอไง แจ๊ค คุณเคยถามผมใช่มั้ยว่า ทำไม คนที่ 3 ถึงไม่เหมือนกับคนๆอื่นๆ ผมว่าผมพอจะมองออกแล้วละ ดูใช่มั้ยว่า เหยื่อรายที่ 1,2  และ 4 ถูกเฉือนเอา องคชาตไป ยกเว้น คนที่ 3 ที่ ถูกเอาลูก อันฑะไปแทนน่ะ”โจบอก

           “คุณไม่ต้องบอกเรื่องนั้นกับผมหรอกน่า บอกผมสิว่าคุณได้เรื่องอะไรบาง”แจ๊คถาม

                           “ไอ้ องค...เอ๊ย เจ้าหนูของเขา เอ้ย เจ้าหนูของเหยื่อรายที่ 3 น่ะ ผมหรอกส่องไฟรังสีตรวจดูแล้ว ผมพบว่ามันมี คาบอสุจิ กับ น้ำลาย ติดอยู่ด้วย”โจอธิบาย

                          “คุณจะบอกว่า เหยื่อโดนข่มขืนงั้นหรือ” (นั่นยิ่งน่าสะอิดสะเอียดเข้าไปใหญ่) แจ๊คคิด

         “เปล่า.....ใช่.....เอ๊ย ...ไม่ นั่นมันก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่ผมต้องการจะบอกว่า ก่อนถูกฆ่า เขาถูกฆาตกร...ใช้...ปาก กับ.....เอ่อ”โจอ้ำอึ้ง

                           “พูดซะยังกับว่า คุณยังไม่เคย อย่างนั้นแหละ”แจ๊คตอก

                        “ไม่ๆๆ.....ที่ผมต้องการชะพูดก็คือ ทุกอย่างมัน เชื่อมโยงกันหมด ฆาตกรคนนี้เลือกเหยื่อตาม สเป็กของตัวเอง แจ๊ค เธอเลือกเหยื่อตามความชอบของตัวเอง ทั้งอายุ รูปร่าง และหน้าตา ดูสิ ผู้ตายทั้งสี่คน ล้วนแต่มีอายุไล่เลี่ยกัน หรือไม่ก็เท่ากัน แถมยังหล่อ หน้าตาดี และสำคัญคือ ยังโสด และชิ้นส่วนของพวกเขาที่หายไปเกิดขึ้นจากเธอ แจ๊ค”โจบอก

                          “คุณกำลังจะบอกกว่า ฆาตกรเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ....? คุณมั่นใจได้ยัง โจ”แจ๊คถามขึ้นอย่างตกตะลึง

          “ผมตรวจพบว่า ที่ด้านหลังของหนังหุ้มของเขา มี รอย ลิปสติก เปรอะเปื้อนอยู่ตรงนั้นพอดี และรอยมันเล็กมาก แจ๊ค เล็กเกินกว่าจะเป็นของผู้ชาย แถมยังเรียวสวยได้รูปด้วย ผมมั่นใจเลยว่า คนที่ทำให้อวัยวะเพศของพวกเขาหายไปนั้น ก็คือเธอ มันฝีมือเธอ ที่เธอทำเป็นการทำเอาสนุกหรือแค่ทดลองและทดสอบอะไรสักอย่าง เหมือนเกม ที่ถ้าคุณทำอย่างงี้ไม่ได้ คุณจะต้องเสียส่วนนั้นไปอย่างทำนองนั้นแหละ แจ๊ค มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นแหละ ที่คิดสนุกในเรื่องแบบนี้ ทั้งเรื่องใช้ปาก และการตัดตอน เพียงแต่ เธอวิกลจริตเกินกว่าจะควบคุม เลยปล่อยจนมันเลยเถิด”โจอธิบาย

             “แล้วเธอเป็นคนฆ่าหรือเปล่า?”แจ๊คถาม

                          “เปล่า เธอไม่ได้เป็นคนฆ่า แจ๊ค เธอน่าจะมีคนอื่น อาจมีลูกน้อง หรือใครก็ตามที่ทำหน้าที่เป็นตัว สำเร็จโทษในขั้นสุดท้าย เหมือนกับ”โจบอกและแจ๊คพูดแทรก

                         “ชายคนนั้นหมดประโยชน์ หรือ ไม่อาจทำให้หล่อนพึงพอใจได้ เลยถูกลงโทษประหาร ใช่มั้ย”แจ๊คถามโจ

                      “ที่สำคัญนะ ผมยังพบอีกว่า ผู้ตายมีรอยปั๊มของสี เหมือนเป็นรูปสัตว์อยู่ที่ มือซ้ายด้วย มีเหมือนกันหมดทุกคนเลย ผมว่าพวกเขาน่าจะไปเจอกับ ฆาตกรในที่ๆ เดียวกัน อาจเป็นแหล่งท่องเดียว อย่าง ผับ บาร์ หรือพวกขายบริการ”โจ

                           “เป็นรูปเสือใช่มั้ย”แจ๊คถาม

           “ใช่แล้วคุณรู้ได้ไง....?”โจถามอย่างสงสัย

                            “รอผมเดี๋ยวนะ”แจ๊คพูดเสร็จเขาก็วางใบโบชัวร์ลงกับพื้นโต๊ะพร้อมกับสายตาตรวจดูในใบนั้นอย่างละเอียดทุกบรรทัด

           “โรงละครสัตว์ กาเซียส จัดทัวร์แสดงทั่วเมือง อเมริกา รายชื่อ เมืองและละเมือง ที่จะเดินทางทัวร์ต่างๆ มีทั้งหมด โดยเริ่มจาก......”แจ๊คพูดกับตัวเองในใจ แล้วก็ต้องตกตะลึงจนตาค้างเหมือนลองเอามาเทียบกับจุดที่พบศพของผู้ตาย

           “ขอบคุณมากเลย โจ คุณเก่งมาก แค่นี้ละกัน”แจ๊ครีบวางสายแล้วเขาก็จ่ายเงินพร้อมกับออกไปจากร้าน แล้วก็ขับไปที่ สถานีกรมตำรวจที่เขาประจำอยู่ทันที     
ที่กรมตำรวจ

                            “อะไรนะ......?”เสียงของตำรวจชายผิวสีกับตำรวจหญิงพูดขึ้นพร้อมกันเหมือนกับไม่ค่อยเชื่อในเรื่องที่ แจ๊คบอกกับพวกเขา
      
                           “โอเค แต่ที่ ที่คุณบอกว่าคุณรู้แล้วว่า ฆาตกรอยู่ไหน แต่ที่ ละครสัตว์ที่กำลังมีทัวร์ทั่วอเมริกาอยู่นี่น่ะนะ ก็แหล่งที่ฆาตกรอยู่”นายตำรวจผิวสีถามเพื่อความแน่ใน

         “ใช่ ฟังให้ดีนะ ที่ ลีสันนิฐานว่าฆาตกรไม่มีที่อยู่แน่นอนน่ะ มันเรื่องจริง เพราะมันอยู่ใน คณะละครสัตว์ไง คณะไม่มีทางตั้งแสดงอยู่ที่เมืองไหนเมืองนั้นเพียงเมืองเดียวแน่นอนอยู่แล้ว ลองคิดดูสิ มันเหมาะเจาะไปหมด ดูนี่ให้ดีนะผมลองเช็คเมืองที่พวกเขาจะเดินทางไปแสดงแล้ว ครั้งแรก ที่ แคพแลนด์ สองที่ แคนซัส สามที่ แอตตาแลนตร้า และสี่คือที่นี่ ซีแอตเทิล พวกเขาใช้เวลาแสดงในแต่ละเมืองไม่เกิน 7 วัน หรือ 1 สัปดาห์ ตามจำนวนระยะห่างที่เราพบเจอศพของผู้ตายพอดี เหยื่อถูกฆ่าภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ ในช่วงเดียวกับที่มีการแสดงละครสัตว์ และจากศพที่เจอกับเมืองที่เกิดเหตุ ทำไมมันถึงได้ตรงกับ เมืองที่คณะละครสัตว์ที่จะไปโชว์ขนาดนี้ล่ะ”แจ๊คอธิบาย

                        “โอเคที่คุณพูดมันก็จริง แต่ทำไม คนร้ายถึงต้องมาทิ้งศพไว้ ที่อื่น หรือ ในเมืองล่ะ ทำลายศพอย่างเช่น ฝั่ง ทิ้งทะเล ซะก็ได้”นายตำรวจผิวสีถาม

                     “พวกมันทำไม่ได้หรอก การเก็บศพไว้ไม่ใช่เรื่องดี ในคณะละครสัตว์ มีคนงานและนักแสดงอยู่เยอะ สักวัน กลิ่นของตัวศพร่วมถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของตัวคนร้ายจะต้องมีพิรุธออกมาให้คนภายในจับได้ เฉพาะฉะนั้นเรื่องเก็บศพไว้ย่อมเป็นไปไม่ได้ และฝั่งศพ หรือเอาไปทิ้งทะเลสาบตรงบริเวณแถวๆนั่น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะฆาตกรฆ่าคนในระยะถี่เกินไป ทำแบบนั้นอาจจะรอดในช่วงแรก แต่ท้ายแล้ว การประกาศคนหายตัวไป จะสืบสาวไปถึงตัวของคณะละครสัตว์จนได้ ต้องมีคนรู้อยู่แล้ว ว่าผู้ตายหายตัวไปในวันที่ เขาไปเที่ยวละครสัตว์ เฉพาะอย่างนั้น มีทางเดียวคือไปทิ้งศพไว้ที่อื่น แต่พวกมันทิ้งศพไปไกลๆห่างจากตัวคณะละครไม่ได้ ต้องรีบกลับมาเพื่อเตรียมตัวแสดงทุกวัน ไม่งั้นได้ผลัดกับคณะหรือล่าช้าจนโดนจับพิรุธ”แจ๊คอธิบายต่อ

              “การไปทิ้งศพไว้ในเมืองต่างๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด ทำให้เหมือนกับคดีเกิดขึ้นที่อื่น ไม่ใช่ในละครสัตว์ ทำให้เหมือนกับเป็นการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นตามเมืองใหญ่ๆทั่วไป แต่พวกมันไม่เป็นมืออาชีพพอ การทิ้งศพไว้ในบ้านคนอื่น อาจดูเหมือนฉลาดแต่โง่บรม เพราะมันคิดว่าทำให้เหมือนเกิดคดีในตัวบ้าน แต่ความจริงกลายเป็นว่า มันทำให้สืบสาวเรื่องราวไปได้เร็วขึ้นเช่นกัน ที่สำคัญฆาตกรมีนิสัย ไม่ยอมเปลี่ยนรูปแบบการฆ่า ทำยังไงวิธีการเลือกเหยื่อ หรือเอกลักษณ์การฆ่าก็ยังเป็นเหมือนเดิม ยิ่งทำเป็นซ้ำๆในจำนวนติดๆกัน ยังๆก็ยังสามารถระบุได้ว่าเป็น ฆาตกรคนเดียวกัน ตรวจจากศพยังไงก็รู้ การเลือด หรือ รอยที่ยังหลงเหลืออยู่”แจ๊คอธิบาย

                “อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าเป็น คนในคณะละครสัตว์”นายตำรวจผิวสีถามอีกครั้ง

                “โจ หมอชันสูตร เพ่งโทรมาบอกว่า ผู้ตายทุกรายมีรอยปั๊มตรารูปเสือ ที่อยู่หลังมือซ้ายคนทุกคน ซึ่งมันเป็นตราเดียวกับ คณะละครสัตว์ กาเซียส ในใบโบชัวร์ที่ผมมีอยู่นี่”แจ๊คพูดกับกับโชว์ใบโบชัวร์ให้ดู

                “โอเคงั้นเราก็รู้แล้วว่า คนร้ายเก็บตัวอยู่ไหน แล้วคุณจะเอาไงต่อละ”นางตำรวจหญิงถาม

                 “แต่วงการระบุตัวคนร้ายยังกว้างอยู่ ขืนตรงทีมออกไปตรวจค้นจะสร้างความตื่นตระหนก เปิดโอกาสเตือนคนร้าย จนแอบหลบหนีออกไปได้ก่อน ผมจะให้ ลีไปกับผม ต้องสืบดูให้แน่ชัดก่อนว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นใคร ได้เรื่องอะไรแล้วผมจะโทรบอก”แจ๊คพูด

ระหว่างกำลังขับรถ

                  “ให้ตายเถอะ บอกแล้วใช่มั้ยว่า ฉันคิดถูก ตัวฆาตกรไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เฮ้อ....ฉันเสียว่าขับรถออกไปสืบตามเมืองที่เกิดเหตุต่างๆ อยู่ตังวัน”ลีบ่น

                  “ว่าแต่นายรู้แน่ว่า ต่อไปคนร้ายจะลงมืออีกเมื่อไหร่”ลีหันมาถามแจ๊ค แจ๊คไม่ตอบก่อนจะส่งใบบอชัวร์ที่เขาได้มาเมื่อตอนเช้าให้กับลี ลีเปิดมันออกดู

                  “สถานที่ต่อไปที่ คณะละครสัตว์จะไปแสดง นั่นแหละที่ต่อไปที่ คนร้ายจะลงมือ ลองดูรายชื่อของเมืองต่อไปสิ”แจ๊คบอกกับลี

                   “เซาท์ เดโกต้า เดโกต้า เนี่ยนะ ต้องขับรถตั้ง 4 ชั่วโมงกว่าจะไปถึง”ลีบนหลังดูเสร็จ

                 “ถึงได้รีบบึ่งอยู่นี่ไง”แจ๊คพูด แต่จู่ๆ

                    “จอดก่อนๆ”ลีโผลงขึ้นทำเอาแจ๊คต้องเบรกกะทันหันจนเกือบตัวทิ่ม รถมาจอดอยู่ตรง หน้าร้านมินิมาร์ก พอดี ลีรีบกระโดดลงไปจากรถ แล้วก็หายเข้าไปซื้อของในร้าน แจ๊คเอาแต่มองอย่างรุนงงแล้วก็สายตัว จะเกิดหิวอะไรกันตอนนี้  ประมาณ 10 นาทีต่อมา ลีหิ้วถุงใส่พวก ข้าวอบไมโครเว็พในกล่องพลาสติก พวกขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มน้ำอัดลมกระป๋อง กับถ้วยกระดาษบรรลุกาแฟดำเอาไว้ สี่ถ้วย

                        “ยังไงซะคงต้องขับรถอีกนาน ต้องมีอะไรกันไม่ให้ท้องหิว แล้วก็พวกเครื่องดื่มแก้ห่วงด้วยใช่มั้ยละ?”ลีหันมาบอกพลางยิ้ม แจ๊คได้แต่ส่ายหัว แต่ก็จริงอย่างว่า ก่อนเขาจะขับรถไปต่อ

ณ แนวเขตนอกเมืองของ เซาท์ เดโกต้า เวลา 17.45 นาที
             โชคดีที่ คณะละครสัตว์ “กาเซียส”เพิ่งจะมาถึงตอนเช้า มันเป็นกระโจมขนาดใหญ่มโหราฬ ประมาณ 2 กระโจม มีขนวบรถไฟยาว จอดเทียบท้าอยู่ตรงลานรางรถไฟ นี่ก็ใกล้จะค่ำแล้ว มีสปอนต์ไลท์ขนาดใหญ่หลายจุดถูกเปิดว่องสว่างไปทั่วเพื่อเรียกความสนใจจากผู้คนที่ขับรถผ่านมา รวมถึงไฟจากดวงไฟดวงเล็กๆอีกหลากหลายสีตะการตาสมกับที่เป็นคณะละครสัตว์ ผู้คนมากมาย ทั้งนักท่องเที่ยว คนในเมือง ที่มาด้วยตัวคนเดียว ครอบครัว เพื่อนฝูง ก็ต่างพากันมาดูละครสัตว์ในวันนี้กันอย่างแน่นขนาด 

                   “เราจำเป็นต้องใช้ปืนด้วยหรือไง?”ลีถามเมื่อเห็น แจ๊คเปิดเบาะหน้ารถหยิบปืนขนาด จุด.45 ออกมา เขาตรวจความเรียบร้อยของกระสุนปืนและเช็คว่าไกปืนยังอยู่ในสภาพปลอดภัย

                   “รอบต่อไป เป็นรอบสุดท้ายพอดี ตอน 18.30 อีกประมาณ 10 นาที ก็จะเริ่มแสดงแล้ว แต่ค่าตั๋วแพงชะมัด สองคนปาเข้าไปตั้ง 400 เหรียญ นี่ ฉันว่าเรามาสืบคงไม่เสร็จภายในวันนี้หรอก ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาจ่ายค่าเช่าโรงแรมด้วยหรือเปล่าเลยนะเนี่ย”ลีพูดก่อนจะส่งตั๋วใบหนึ่งให้กับแจ๊ค

                   “ฆาตกรมมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นผู้หญิง ก่อนอื่นฉันว่าเราต้องเสียเวลาดูการแสดงให้จบก่อน ดูสิว่าที่นี่มี นักแสดงละครสัตว์หญิงกี่คน จากนั้นก็ค่อยสอบถามไปทีละคน รีบเข้าไปดีกว่า การแสดงจนจะเริ่มแล้ว”แจ๊คพูดก่อนจะเดินนำหน้าลีไป

                  “เอ่อ....เดี๋ยวของฉันไปห้องน้ำก่อนนะ แล้วจะตามไปที่หลัง”ลีพูดก่อนจะแยกตัวออกไปทำธุระส่วนตัว

ที่ห้องน้ำ

                  “มันยังดิ้นอยู่หรือเปล่า?”เสียงของชายคนหนึ่งถามขึ้นอยู่นอกกระโจมห้องน้ำ หลังจากที่ลีพึ่งจะทำธุระเสร็จมันเรียกความสนใจของเขาจนต้องหยุดฟัง

               “โดนยาสลบเข้าไปแบบนั้น ฉันว่ากว่าจะตื่นก็พรุ้งนี้เช้าแหละ ฮิฮิ ฉันแทบรอให้การแสดงจบไม่ไหวเลยแหละ ยอมรับว่า ดูเจ๊ ทรมานไอ้หนุ่มนั้น สนุกกว่าเล่นเป็นตัวตลกในคณะเยอะเลย”เสียงชายคนหนึ่งดูจะใหญ่แล้วทุ้มกว่าคนแรก ลีค่อยๆย่องไปตามต้นเสียงนั้น      

                  “แล้วแก่คิดว่า รายนี้จะเสียชิ้นไหนล่ะ แต่พนันได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นชิ้นไหนก็ตาม ฉันไม่อยากเป็นมันเลยจริงๆว่ะ”ชายคนแรกพูดขึ้น

                “แกพูดถูกว่ะ เอ้ารีบเถอะ เดี๋ยวการแสดงจะเริ่มแล้ว”ชายคนที่สองพูด เสร็จแล้ว การสนทนาก็เงียบไป ลีที่ตอนนี้ย่อตัวลงก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ ของชายที่กำลังสนทนากันอยู่ นั้นก็ครุ่นคิดดูท่าเขาจะเจอพวกสมรู้ร่วมคิดเข้าซะแล้ว

นี่....แกเป็นใครน่ะ....! มาทำอะไรที่นี่.....!(ทันใดนั้นเองเสียงของชายคนหนึ่ง ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของลี ลีหันไปบอกและแล้ว)
ปึก..............!!!!
(เสียงของการถูกฟาดอย่างแรง ทำให้ภาพด้านหน้าของลีดำมืด จนเขาหมดสติไป)


      อีกทางด้านหนึ่ง แจ๊คที่ยืนรออยู่หน้าทางเขา ตั้งนานก็ไม่เห็นลีกลับมาซะที จนเขาทนรอไม่ได้จนต้องเข้าไปในกระโจมการแสดงก่อน

ทันใดนั้นเอง
                       “สวัสดีค่ะ....เอ่อ....คุณมาดูการแสดงหรือเปล่าค่ะ?”มีน้ำเสียงที่เพราะหวานจับหู ถามขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา เรียกความสนใจของแจ๊คจนต้องหันกลับไปดู แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงจนตาค้าง
                         
    ทางด้านหน้าของแจ๊ค ได้ปรากฏตัวของผู้หญิงสาววัยประมาณ 20-25 ปี ดวงตาสีเขียวอ่อนปนน้ำตาลกระจ่างใส สะท้อนจนเขาเห็นของเขาในม่านตาของหล่อน หล่อนสูงประมาณ 165 เซนติเมตร ที่พวกกับรองเท้าส้นสูงสีน้ำเงินเข้มแล้วยังไงก็ไม่เกิน 170 ดี ผิวขาวนวลอมชมพู ดวงหน้าเล็กๆ จมูกเล็กและปากเรียวสวยได้รูปที่ทาด้วยลิปสติกสีแดงส้มบางๆ หล่อนมียาวสีน้ำตาลเข้มที่ยาวจนถึงกลางหลัง ในชุดสูททักซิโดสีน้ำเงินเข้มขลิบทองและกระดุมทองที่เป็นชุดคลุมที่มีท้ายของชายยาวเป็นสองแฉกออกไปปิดเลยส่วนของสะโพกขนไปถึงบริเวณหัวเข่า ไทเล็กๆสีเดียวกัน และเสื้อเชิ้ตสีขาวลายพู่กับเสื้อเอื้อม ส่วนท่อนข้างเป็นกางเกงขาสั้นรัดรูปมากๆจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของสตรีได้อย่างชัดเจน จนเหมือนกับชุดลีโอตารด์สีเดียวกับชุด และถุงน่องลายตาข่ายสีน้ำตาลอ่อนจนมองเห็นเนื้อในของเรียวขาสวยยาว แค่มองความเป็นชายภายใต้กางเกงของ แจ๊คก็แกร่งร้อนขึ้นอย่างรุนแรงแล้ว จนสวยมากจนชวนตะลึง แจ๊คเคยเห็นหล่อนแล้วในใบบอชัวร์ แต่ตัวจริงกับสวยกว่าในรูปถึง 10 เท่า ใบหน้ากระจ่างใสดูอ่อนเยาว์และดูเป็นมิตรกับดวงตาที่ชวนให้ลุ่มหลง ฉงนสนเท่ เขาไม่เคยเจอใครสวยแบบนี้มาก่อน

                        “เอ่อ....คุณคะ?”เธอถามเขาอีกครั้งเมื่อเห็นเขานิ่งๆไป

                        “อ้อ...! ใช่ ขอโทษครับ ใช่ครับ ผมเป็นแค่คนมาดูเท่านั้นแหละครับ คือ โทษด้วยครับ คือผมใจลอยไปหน่อย คือ คุณสวยมากซะจนผม เบลอไปเลย”(พูดบ้าอะไรออกไปของเรา วะเนี่ย) แจ๊คพูดดูเหมือนว่าเขาจะลืมตัวไปจริงๆ ส่วนหล่อนเห็นท่าทาง ตลกเลอลัก ของเขาแล้วก็ อดขำออกมาไม่ได้จนต้องเอามือมาป้องปากเอาไว้ ไม่ให้ดูน่าเกลียด

                      “ขอบคุณค่ะ ที่ชม คุณเองก็หล่อมากเหมือนกัน”หล่อนพูดชมเค้าบอก พระเจ้าช่วย หล่อนส่งสายตาพร้อมกับส่งยิ้มมุมปากหวานๆมาให้เขา ทำเอาแจ๊คหน้าแดงไปหมด ที่สำคัญคือ ในท่อนล่างเจ้ากรรมมันยิ่งลุกฮือมากขึ้นกว่าเดิมอย่างร้ายกาจ

                       “นี่ค่ะ ถ้าคุณเป็นคนดูฉันคงต้องให้ไอ้นี่คุณ”หล่อนพูดก่อนจะถึง เม็ดห่อกระดาษสีทองที่ใส่ช็อกโกแลตไว้ ให้เขา ก้อนหนึ่งจากจำนวนที่เหลืออยู่อีกพอสมควร ในฉาดที่เธอถือมา

                       “นี่มัน....?”แจ๊คถามอย่างสงสัย

                       “มันคือ ช็อกโกแลตค่ะ ลองสัมมนาคุณ สำหรับแขกที่มา ดูการแสดงของเรา แต่ช่วยกรุณาเก็บไว้ก่อนจนกว่าจะจบคิวที่ฉันต้องแสดงนะคะ เพราะมันเป็นเกมของรางวัลพิเศษจากฉันน่ะคะ”หล่อนบอกกับเขาพลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

                       “ได้ครับ ผมจะเก็บมันไว้ ขอบคุณครับ ไม่นึกว่าคุณจะมาทำหน้าที่เล็กๆ น้อยๆแบบนี้ด้วย”แจ๊คพูดขอบคุณหล่อน ก่อนจะถาม

                       “ปกติ ฉันก็ทำเป็นประจำค่ะ นอกจากแสดงแล้ว ปกติฉันก็คอยมาแจกพวก ลูกอมกับช็อกโกแลตให้พวก เด็กๆอยู่แล้วด้วย โชว์จะเริ่มแล้ว คุณรีบไปนั่งที่เถอะค่ะ ไม่แน่นะคะว่า คุณอาจจะเป็นผู้โชคดีในโชว์ของฉันก็ได้”หล่อนพูดก่อนจะเดินไป ทิ้งไว้แจ๊คส่งยิ้มตามหลังของหล่อนไป          

                                               ติดตามตอนต่อไป เร็วๆนี้
      
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
ยินดีต้อนรับสมาชิกทุกท่าน อ่านแล้วอย่าลืมแสดงความคิดเห็นนะครับ

"พันธนาการบุรุษเพศ"