โฉมหน้านางเอก
“นึ้งเซาะเนี้ยง”หรือ
“ธิดาหิมะขาว”
ณ
สถานที่แห่งหนึ่ง ห่างไกลของไปจากบ้านเมือง ยังคงมีป่าแห่งหนึ่งที่บัดนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะที่หนาวจนเข้ากระดูกบริเวณพื้นด้านล่างเมื่อมองดูแล้วกับไม่พบสิ่งใดเลยนอกจากพื้นหิมะหนาเตอะที่ทั้งหน้าและตั้งซ้อนชันขึ้นจนไม่เห็นหนทาง
ละลองหิมะยังคงตกลงมาไม่ขาดเกาะกินและปกคลุมพื้นป่าและต้นไม้ใบหน้าจนได้แต่ล้มตายลงไปเพราะไม่อาจจะดูดสารอาหารของธรณีได้
และในที่แห่งนั้นเอง ตรงต้นไทรใหญ่ต้นนึงกลับพบว่ามี จอมยุทธ์เด็กหนุ่มคนหนึ่ง
หน้าตาหล่อเหลาดูแล้วอายุราว 17-18 ปี
แต่งกายซ่อมซอกเสื้อผ้าขาดวิ่นไม่ต่างอะไรไปจากขอทาน
ชุดเป็นชุดบู๊สีเขียวขี้ม้าและมีแทบดำ สภาพของมันนั้นช่างดูแล้วทุลักทุเลและหน้าอนาถอย่างยิ่งร่างกายผ่ายผอม
เพราะถูกบังคับให้อดข้าวอดน้ำมาหลายวัน หนำซ้ำยังถูกจับมัดขึงไว้กับต้นไทรใหญ่ต้นนั้น
มันไม่ได้ใส่รองเท้าทำให้ความเย็นของหิมะกัดกินตั้งแต่ส้นเท้าไปจนถึงข้อเท้า
เจ็บปวดและแสบทรมานเหนือประมาณ จอมยุทธ์เด็กหนุ่มของทบทวนเรื่องราวมันจำได้ว่าครั้งล่าสุดมันกำลังอยู่ในโรงเตี๊ยม
พร้อมกับอาหารที่มันโปรดปรานอยู่เต็มโต๊ะ มันไม่เคยดื่มเหล้ามาก่อน
แต่ก็อยากลองดูสักครั้งจึงสั่งเหล้านารีแดงอย่างดีมาไถหนึ่ง ดื่มกินจนมัวเมาแล้วก็หลับไป
มันจำได้ลางๆว่าเหล้าทำให้มันรู้สึกปวดหัวและหน้ามืดอย่างประหลาดก่อนจะฟุบลงบนโต๊ะ
แต่ว่าจะหลับไปแต่ร่างกายใช่ว่าจะหลับสนิท
มันจำได้อีกว่ารู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังนำพาร่างของบนไป
มันพยายามลืมตาดูแลเห็นแต่ชายผ้าสีขาวยาวๆ และเรือนผมดำๆยาวสลวยของสตรีนางหนึ่ง
จากนั้นภาพที่เลือนล่างต่อมาก็คือ ดวงตากลมโตและปากที่เรียวสวยสุดแสนจะเย้ายวน
มันรู้แต่ว่าสตรีที่ลักพาตัวมันมานั้นมีรูปโฉมงดงามมากชนิดว่า
ตัวมันเองนั้นยังประมาณว่าฝันไป สตรีนางนั้นยังสวมเครื่องประดับเป็นสร้อยเพชรที่ประดับไว้บนหน้าผาก
แต่งตัวคล้ายลักษณะของสตรีที่มีเสื้อของเผ่ามองโกล
สตรีนางนั้นเป็นคนจับมันมัดไว้กับต้นไทรก่อนจะถอดเสื้ออาภรณ์ที่มันสวมใส่อยู่นั้นจนหมด
ปล่อยให้มันล่อนจ้อนจนมันรูปและก็ทิ้งมันไว้ในสภาพเช่นนี้ นานกว่าครึ่งวันแล้ว
เมื่อเวลาได้ผ่านไปนานเท่าใด
ตัวมันเองก็ยังจำไม่ได้แล้ว จากนั้นก็บังเกิดเสียงฝีเท้าที่เหยียบย้ำบนอยู่กลางหิมะขาวโพนนั้นห่างออกไปไม่ไกลเท่าใด
จอมยุทธ์เด็กหนุ่มผู้โชคร้ายผู้ถูกทรมาณให้ต้องเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางหิมะอันแสนจะหนาวเหน็บนั้น
ค่อยๆเหลือบตาขึ้น ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง ณ เบื้องหน้าของตน
“ท่านยังไม่ตายสินะ.....”
ทันใดนั้นเองก็ปรากฏลุ่มเสียงของสตรี ดังแว่วออกมาแต่ไกล เสียงแหลมสูงของสตรีนางนี้
กลับให้ความรู้สึกที่แปลกต่างออกไป
น้ำเสียงนั้นใสกระจ่างดุดน้ำค้างแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น
เสียงที่ยินนั้นหวานราวกับน้ำผึ้งอีกทั้งยังกังวานเข้าไปถึงประสาทหู ทุ่มทำนองก็อ่อนช้อยราวกับลุ่มเสียงของเทพธิดาก็ไม่ปาน
จากนั้น จอมยุทธ์เด็กหนุ่มก็พลันเห็นการปรากฏร่างของสตรีสางอีกนางหนึ่งซึ่งลอยมาบนอากาศธาตุราวกับบินได้เหมือนนกน้อย
สตรีนางนั้นมีผมยาวสีดำเข้มสลวยยาวถึงบั้นท้ายด้านหลัง ปลายผมดำขับหนักแน่นไม่แตกปลายแสดงว่าถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีราวกับไข่ในหิน
แต้ฮ้วงหลงมองดูต้องพลันตะลึงจนตาค้างเมื่อพบว่าสตรีนางนั้นมีเรือนรางที่เบาบางร่างน้อยเพียงใดอีกทั้งเรือนร่างนั้นยังงามยิ่งนักเข้ากับสัดส่วนที่นางมีได้อย่างเหมาะเจาะ
ชนิดไม่อาจหาความสมดุลใดในโลกนี้ได้อีกแล้ว
อาภรณ์ที่นางสวมใส่นั้นเป็นชุดอาภรณ์สีขาวยาวพลิ้วคลุมถึงเท้าที่บางมากจนแถบจะเห็นเนื้อในและเกือบจะเผยสัดส่วนที่อยู่ภายใต้อาภรณ์นั้นไว้ทั้งหมด
ชุดที่นางสวมนั้นเปิดเผยทั้งแต่ช่วงคอที่ยาวระหงส์จากหัวไหล่ทั้งสองข้างลงมาจนถึงทรวงอก
เมื่อพินิจดูจะสามารถลอยปลายยอดถันของทรวงอกที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าสาววัยแรกรุ่น เนื้อผ้าบางจนทะลุจนเห็นกางเกงชั้นในสีเข้ม
การหุ้มน้อยห่มน้อยขนาดนี้ถือว่าผิดคำนองครองธรรมของยุทธภพ และเมื่อพินิจดูรูปโฉมของนางนั้นก็พบว่า นางมีผิวพรรณขาวผุดผ่องปนชมพูเหมือนลูกแพรที่มีน้ำมี
นวน คิ้วเรียวยาวงอนงาม
ดวงตากลมกระจ่างใสสีนิล จมูกเล็กไม่ใหญ่มาก ริมฝีปากสีแดงระเรือเรียวจนได้รูป
เวลาที่นางยิ้มแล้ว แฝงถึงความเจ้าเล่ห์แสนแก่นแก้วเอาไว้
แต้ฮ้วงหลงรู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ในภวังค์เหมือนหลุดลอยเข้าไปอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า
ที่มีนางฟ้ามาร่ายรำให้เห็นตรงหน้า
ความงามเช่นนี้ไม่สามารถหาสาวใดในใต้หล้ามาเทียบได้ งามขนาดแม้แต่เทพธิดาบนสวรรค์จริงๆยังต้องอิจฉา
หากได้โอบกอดนางไว้เคียงกายก็เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ขั้นสูงสุดแล้ว
แต่ทว่า
แม้จะสวยสดงดงามหมดจนเล่นนี้ แต่จุดประสงค์ของนางคงไม่ใช่การมา ปรนนิบัติหรืปรนเปรอจอมยุทธ์หนุ่มแต่อย่างใด
เพราะในความคิดของเขาแล้ว เธอคนนี้เปรียบเสมือนกับมัจุราชยามเมหันต์อันหนาวเหน็บ
ที่กำลังจะมาลงทันธ์สุดแสนจะหฤโหดกับจอมยุทธ์เด็กหนุ่มเสียมากกว่า
แต้ฮ้วงหลง เห็นนางมองดูมัน เอียงคอเล็กน้อยยิ้มตอบพร้อมแววตาเจ้าเล่ห์ซุกซนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนางพลางใช้มือซ้ายลูบเล้าผิวกายทั้งแต่ต้นคอยาวระหงส์ไปถึงทรวดทรง
สร้างความยั่วยวนให้แก่แต้ฮ้วงหลงยิ่งนัก นางมารน้อยงดงามสุดหาใดเปรียบ
อีกทั้งยังเก่งกาจเรื่องการ
กระตุ้นกามมรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ ทำเอามันอดกลืนน้ำลายไม่ได้
พลันเห็นนางใช้มือขวาเหวี่ยงแส้หนังอ่อนยาวนับ 7 หลุน สีดำขึ้นพานไหล่
เพ่งพินิจใบหน้าอันเรียวจนได้รูปของแต้ฮ้วงหลงอย่างละเอียดถี่ถ้วน
พอนางค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ ใจก็ของแต้ฮ้วงหลงเต้นอย่างรุนแรงราวกับจะทะลุออกมาจากอก
นางเดินจนอยู่ห่างไม่ไกลเกิน 2 ก้าว กวาดสายตากลมโตสดใสไปทั่วร่างของแต้ฮ้วงหลงก่อนจะค่อยๆเดินไปทางด้านซ้าย
จนวนกลับไปทางด้านหลังก่อนจะหยุดมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้งทางด้านขวา
ประมาณว่ามองหมดทุกส่วนสัดของบุรุษเพศ พลางยิ้มที่มุมปากบ้างๆ
ราวกับเจอเนื้อน่าตื่นเต้น
“ผิดคาด นึกไม่ถึงว่านอกจาก
ท่านจะมีหน้าตา หล่อเหลาอย่างร้ายกาจแล้ว ยังมีรูปร่างที่งดงามสมส่วนแบบชายชาตรี
อันหาได้อย่างยิ่งในบรรดาบุรุษเพศทั่วไป”
“แม่นาง
พวกเราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เหตุนี้ถึงได้กระทำกับข้าเช่นนี้?” แต้ฮ้วงหลงกล่าว
“ที่ท่านพูดมานั้นถูกต้อง
เราไม่เคยมีข้อบาดหมางหรือผิดใจกันมาก่อน แต่ถึงยังไงเสีย
ข้าก็อยากให้ท่านจอมยุทธ์คิดว่านี้ นับว่าเป็นความโชคดีของท่านจอมยุทธ์แล้ว”นางมารสาวแย้มปากพูด
“ถูกกระทำเยี่ยงนี้
ไฉนถึงบอกว่าเป็นโชคดี”แต้ฮ้วงหลงถาม
นางมารสาวยิ้มพลายแต่ไม่ได้ตอบอะไรเขาแต่อย่างใด นางบรรจงค่อยๆเยื่องก้าวเข้ามาหาร่างเขา อย่างแช่มช้าและสง่างาม สราญไปด้วยวัยแห่งสตรีเพศอันมีน้ำมีนวลที่อวบอิ่มจากนั้น
นางก็ยื่นมือซ้ายมาลูบไล้แก้มมันเบาๆก่อนจะเงยคางของเขาขึ้นให้เขาจ้องมองดูใบหน้าอันสวยงามของนางและทันใดนั้นเอง
นางมันก็ตีเข่าขวาอัดเข้าถูกอัณฑะของจอมยุทธ์เด็กหนุ่มเข้าไปอย่างแรงครั้งหนึ่ง
อั่ก.....! (แต้ฮ้วงหลงร้องออกมาพร้อมกับดวงตาที่เบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆก็มีความเจ็บปวดแล่นเข้ามาจากบริเวณต่ำสุดของร่างขึ้นมาจนถึงท้องน้อย
นางมารทำร้ายมันโดยไม่ได้ตะเตือนมันไว้ก่อน)
“เพราะว่า
ท่านจอมยุทธ์จะเป็นเหยื่อคนแรกของข้า ที่จะทำให้ข้าสำเร็จวิชา “อวิชชาดูดบุรุษ” หรือ มีอีกชื่อนึงว่า "สุขีกร่อนวิญญาณ" วิชาคัมภีร์ลับของ
พรรคมารหิมะของท่านแม่ของข้า” พบนางพูดจบ
นางมารก็ใช้เข่าแหลมๆกระแทรกเข้าไปที่แกนกายของจอมยุทธ์เด็กหนุ่มอีกครั้ง
“ไม่ต้องรีบร้อน
การฝึกวิชานี้ต้องเป็นไปตามขั้นตอนอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่านจอมยุทธ์จะไม่จบชีวิตลงง่ายนักหรอก
มา...ให้ข้าสนุกกับท่านก่อนเถอะนะ” นางมารสาวพูด
พูดจบนางก็บรรจงใช้ขาขวาของนางเตะเข้าไป
ณ ตรง ลูกอัณฑะของจอมยุทธ์เด็กหนุ่มอย่างรุนแรง
อ๊าก.....................!!! เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ฮ่า....! ฮ่า.....!
ฮ่า.....!
นางมารสาวหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความชอบใจ
ก่อนจะสนุกกับการยกขาเตะอัดลูกอัณฑะของ จอมยุทธ์เด็กหนุ่มนั้นอย่างเมามัน
ซ้ายทีขวาทีแต่ละครั้งนางทั้งจงใจและบรรจง ถ่ายน้ำหนักของนางทั้งหมดไว้ที่ปลายเท้า ก่อนจะที่เตะอัดใส่แบบไร้ความปรานี
ปึกๆ.............ๆๆ...........
อั่ก........!!!
อ๊าก.............! ได้โปรดหยุดเถอะ
(เสียงของจอมยุทธ์เด็กหนุ่มที่ร้องออกมาอย่างต่อเนื่องและโหยหวน
ความเจ็บปวดบังเกิดขึ้นกับส่วนนั้นของมันอย่างต่อเนื่องและซ้ำไปซ้ำมา
การกระทำของนางนับว่าโหดร้ายและทารุนยิ่งนัก)
“ดูท่านสิ
เป็นถึงจอมยุทธ์กลับ ปัสสาวะเรี่ยราดเลอะเทอะหมดแล้ว”นางมารสาวยิ้มเยาะ
เพราะนางเพิ่งจะเตะลูกอัณฑะของเขาไปหลายสิบครั้ง เตะจนฉี่แตก
นางมารสาวโค้งตัวท่อนบนลงมามองดู
ตรงฐานแกร่งที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยพกช้ำดำเขียวและสีม่วงเข้ม
“ดูแล้วท่านน่าจะเจ็บมากนะ....มาให้ข้าช่วยท่านให้รู้สึกดีขึ้นเถอะ”
นางมารสาวพูดจบ ก็โน้มใบหน้าลงที่ บริเวณหนังหุ้มก่อนจะเริ่มบรรจงใช้
ฟันของนางทึ้งกัดเข้าที่บริเวณลูกอัณฑะด้านขวาของจอมยุทธ์เด็กหนุ่มอย่างแรงก่อนจะแกล้งมาเป็นกัดกระชากดึงออกมาด้วย
อ๊าก~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
นางปล่อยจากด้านขวาแล้วก็มาทำแบบเดียวกันกับ
ลูกอัณฑะทางด้านซ้ายด้วย
อ๊าก~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
นางปล่อยจากการกัดของบริเวณส่วนนั้นแต่ก็ยังไม่วายแกล้งกัดงับเบาๆ
ตรงส่วนของปลายยอดของจอมยุทธ์หนุ่มทิ้งท้าย
“ท่านจอมยุทธ์
ท่านรู้ไหมว่าสิ่งนี้คือสิ่งใด”
นางมารสาวแกล้งชูแส้ในมือขวาของนางให้เขาดู ทำเอาเขาถึงกับหน้าถอดสี
“ข้าจะบอกอะไรท่านให้
อันตัวเรานี้นิยมชมชอบเฆี่ยนบุรุษเป็นที่สุด
การได้ยินเสียงร้องครางของเจ็บปวดหรือเป็นสิ่งโปรดปราณของเรายิ่งนัก”นางมารน้อยขู่เสียงแข็งก่อน
พูดเสร็จนางมารน้อยก็ตวัดแส้ใส่กลางหน้าอกเขาเข้าเต็มแรง
ที หนึ่ง
แส้กระทบเนื้อเปล่าของแต้ฮ้วงหลงทีเดียวถึงกับเนื้อแตกจากด้านบนขวาลงไปยังล่างด้านซ้าย
แต้ฮ้วงหลงรู้สึกปวดแสบร้อนที่แผลหลังราวกับถูกไฟลวกอย่างฉับพลัน
อ๊าก......................!!!!!!!!!!!!!!!! เสียงร้องอันแสนจะเจ็บปวดของ
แต้ฮ้วงหลงกังวานไปทั่วบริเวณ
นางมารสาวบรรจงเสร็จก็ฟาดแส้ลงมากลางแผ่นหน้าอกกว้างของเขาอีกครา
หนนี้จากด้านบนซ้ายลงมายังล่างด้านขวาเกิดเป็นรอยกากาบาทขนาดใหญ่ทันที ตัวของจอมยุทธ์สะบัดและบิดเกร็งด้วยความเจ็บปวดอย่างร้ายกาจ
นางมารน้อยก็เฆี่ยนแส้โบยตีตามมาอีกถึง 3 ครา
เพี้ยะ....!
เพี้ยะ....!
เพี้ย.....!
1 ก้านธูปผ่านไปแล้ว นางก็ยังไม่ยอมหยุดมือ
เสียงแส้เฆี่ยนกลางหน้าอกเขาไปมาตอนนี้ มันมีรอยแผลนับเกิน 30 แห่ง
เลือดก็พาซึมไหลออกมาเป็นทาง แต้ฮ้วงหลงได้แต่ร้องย่างเจ็บปวดและทรมาณแสนสาหัด
บัดนี้นางหันมาเฆี่ยนตีเขาจากบริเวณขาด้านหน้าบ้าง ซ้ายทีขวาที
เกิดรอบแผลเต็มไปด้วยทั้งแต่ตัวไหล่จนมาถึงแขนทั้งสองข้าง
จากกลางหน้าอกมาถึงลำตัวและท้องน้อย จรดลงมาที่ขาทั้งสองข้าง เบ็ดเสร็จถึง 38 แห่ง
นางมารสาวเหวี่ยงสะบัดลงอีกครั้งเต็มแรง
ตัวแส้หนนี้ฟาดตรงที่องคชาติของจอมยุทธ์เด็กหนุ่ม
อ๊าก~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
นางมารเปลี่ยนมาเป็นตวัดแส้ขึ้นไปบนฟ้า
ตัวแส้ก็ฟาดผ่านตรงบริเวณอัณฑะของจอมยุทธ์เด็กหนุ่ม ทำเอาเขาถึงกับอาเจียนออกมา หนำซ้ำด้วยรอยของการถูกเฆี่ยนตีไปตามทั่วร่างนั้นประกอบกับ
ร่างกายที่เปลือยเปล่าท่ามทางหิมะอันหนาวเย็นถึงหัวใจไอเย็น ก็มีแต่จะทำให้บาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดแสดงความเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า
แต้ฮ้วงหลงรู้สึกราวกับตัวเองอยู่ในขุมนรกโลกันต์ก็ไม่ปาน
นางมารสาวมองดูร่างของสั่นเทาของจอมยุทธ์เด็กหนุ่มก็ต้องอดถอนหายใจไม่ได้
“เห็นสภาพท่านแบบนี้แล้วช่างน่าเทวนานัก
เอาเถอะอันตัวเรานี้ก็ไม่อยากโหดร้ายกับท่านจนเกินไปนัก”นางมารสาวพูดขึ้นพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นแสดงท่าทางภูมิอกภูมิใจกับความเมตตาของตัวเองเสียเต็มประดา
“เห็นแก่ท่าน
ซึ่งท่าทางจะดูหนาวจนจะแข็งตายอยู่แล้วรมร่อ เราจะยอม สร้างความอบอุ่นให้แก่อวัยวะของร่างกายท่านได้ชิ้นหนึ่ง
ท่านจอมยุทธ์ก็เลือกเอาเถอะ ว่าอยากจะให้เรามอบความอบอุ่นให้แก่ส่วนใด แต่ย้ำอีกครั้งว่า แค่ชิ้นเดียวจากอวัยวะ 32 ชิ้นของท่านเท่านั้น
นี่ถือเป็นความเมตตาของข้าแล้ว”นางมารสาวทำท่าเป็นแสดงความเมตตา
แต่ความจริงเหมือนกับเป็นการหยอกเย้าเสียมากกว่า
แต่จอมยุทธ์เด็กหนุ่มเจ็บปวดเกินกว่าจะเอ่ยปากได้
“ถ้าท่านไม่ยอมเลือก
เราจะเลือกให้ท่านเองแล้วกัน แต่ท่านจะโทษข้าไม่ได้นะ”นางพูดขึ้นก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย
จอมยุทธ์เด็กหนุ่มถึงกับตะลึงจนตาค้างเมื่อนางมารสาวเขยิบเข้ามาใกล้ก่อนจะคุกเข่าราบลงกับพื้น
พลางใช้มือประคองทรวงอกอันอวบอิ่มของตัวเองไว้
ช้อนตะกองด้วยท่าทางที่เย้ายวนและโน้มตัวเข้าหาก่อนจะใช้ทรวงดอกบัวคู่นั้น ประกบแล้วคีบแกนของความเป็นชายของเขาไว้ระหว่างกึ่งกลาง
ความรู้สึกอบอุ่นเริ่มกระจายแผ่ซ่านทั่วร่าง เมื่อส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของความเป็นชายถูกกดบีบขนาบข้างไปด้วยทรวงอกคู่งาม
ผิวกายและสัมผัสกันนุ่มนิ่มและแสนจะพร่ารัญจวน นางค่อยๆเริ่มบีบนวดและเคล้าคลึงแกนกายอันยาวใหญ่ในบริเวณร่องอกอันอวบอิ่มและขาวนวลของนาง
แม้ส่วนร่างกายเกือบทั้งจะเย็นเยือกจากสภาพหิมะแต่ส่วนที่สำคัญอย่างที่สุดกลับร้อนฉ่าราวกับเพลิงไฟ
ความจริงแล้วนี่เป็นขั้นที่สองของการฝึกวิชา “อวิชชาดูดบุรุษ”
ของนางมารสาว
ขั้นแรกคือ
ทำให้ “แข็งตัว”
ก่อน ขั้นที่สอง ก็คือ การ “เร่งเร้า” และขั้นที่สาม
ก็คือการ “ครอบครอง”
จากนั้นนางมารแล้วก็แย้มริมฝีปากออกเล็กน้อยก่อนจะค่อยก้มใบหน้าอันงดงามของนางลงไป
ณ แกนกายของความเป็นชายของจอมยุทธ์เด็กหนุ่ม แต้ฮ้วงหลงพอพลันรู้สึกได้ถึงการถูกคอบครองตรงปลายยอด
ร่างก็เหมือนชักกระตุกดังฮวบ แอ่นหลังโค้งไปด้านหน้าราวกับถูกสายฟ้าฟาดก็ไม่ปาน
ส่วนนางมารน้อยเมื่อยามใช้ปากครอบครองตรงปลายยอด
พลันรู้สึกถึงความเค็มพุ่งแล่นสู่คอหอย จนต้องรั้งปากออกจ้องมองอย่าง
ตื่นตระหนกตกใจ จึงมองอยากสับสนใคร่รู้
พอคิดดูลองยั่งเชิงตวัดปลายลิ้นกระทบตรงกับฐานยอด
พลันก็ให้ความรู้สึกเค็มแล่นเข้ามาที่ลิ้นอีก แต่แต้ฮ้วงหลงถึงกับกระตุกถึง 2
ครั้ง 2 ครา
คิดแล้วก็ยิ้มขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองได้กระทำตามขั้นตอนถูกต้อง
จากปฎิกริยาตอบสนองของฝ่ายตรงข้าม คราวนี้นางมารสาว ก็อ้าปากคอบครองปลายยอดเอาไว้ทั้งหมดอย่างไม่ลังเล
พลันทำให้แต้ฮ้วงหลงแอ่นหลังยัดเหยียดมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อนางมารสาวรู้สึกว่าความเป็นชายของบุรุษที่นางครอบครองไว้นั้น
พลันรู้สึกถึงว่ามันขยับเข้าไปลึกในปากมากขึ้นกว่าเดิม
แปรเปลี่ยนเป็นความเค็มแพร่ซ่านไปทั่วริมฝีปากของนาง แต่นางหาได้รั้งปากออกไปแบบครั้งที่แล้วไม่
กับกลั้นใจขยับปากเข้าครอบครองเขาลงไปลึกมากกว่าเดิม พอมันติดเหยียดจนสุดปลายปากแล้ว
ก็ลองใช้ลิ้นหมุนพันรอบอยู่ภายในอยู่
กลับรู้สึกว่าเจ้าสิ่งที่นางกำลังครอบครองอยู่
ดูเหมือนจะขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนคับปาก
เสร็จสิ้นกระบวนการที่ สาม ต่อด้วยการ ขั้นที่
4 ก็คือ “ดูดกลืน”
นางลองขยับปากขึ้นลงเบาๆ ไม่นำพากับความเปลี่ยนแปลงของเขาในปากนาง
แต้ฮ้วงหลงหัวหมุนคว้างไปมาอย่าง พลันรู้สึกถึงร่างกายถูกนางโอบอุ้มไว้ทั้งหมด
ตอนแรกเป็นความเสี้ยวซ่านจนหนาวเย็น ต่อมาก็กลายเป็นความร้อนระอุปะทุเดือดเข้าในร่างกาย
ร่างกายนั้นขยับไปมาอย่างไม่อาจควบคุม บอกไม่ถูกว่าตัวเองทรมานมากเพียงใด
ร่างกายหาได้มีความเจ็บปวดสักนิดไม่ กลับให้ความรู้สึกสุขสันต์อย่างบอกไม่ถูก
ตลอดกระทั่งมีชีวิตมาถึงตอนนี้
ยังไม่เคยพบปะกับประสบการณ์ที่แสนล้ำลึกถึงเพียงนี้มาก่อน
ริมฝีปากอันเบาบางของนางกลีบแย้มสัมผัสหยอกเย้าอย่างไม่เสื่อมคลาย เสียงดังแจ๊บๆ
เบาๆ ราวกับถูกดูดกลืน พานางเริ่มขย่อน ชักนำเขาเข้าสู่ปากของนางมากขึ้นเรื่อยๆ
กายแก่นรู้สึกเปียกชุ่มไปด้วยน้ำในปากของนางมารสาว ส่วนนางมารสาวพอรู้สึกว่าเกิดความรู้สึกชุมชื่นขึ้นในปาก
กับรู้สึกว่าตนสามารถขยับปากขึ้นลงได้ระรัวถี่ยิบยิ่งกว่าครั้งก่อน
ไม่รู้สึกถึงความเค็มน้อยๆ ระหว่างที่รอยฟันขูดกระทบเข้ากับผิดหนังของกายแก่นอันแข็งขึงของเขาอีกต่อไป มันช่างให้ความรู้อัศจรรย์ยิ่งนัก นางรู้สึกว่ามีน้ำอะไรบางอย่างลื่นไหลสู่ลำคอ
ดวงหน้าของนางร้อนผ่าวราวกับดวงอาทิตย์ พลันเกิดพลังลมปราณเกิดขึ้นที่จุดหยินในร่างตนกำลังดูดซับพลังหยางในน้ำนั้น และรับรู้ว่าพลังวัตของตนเองกำลังค่อยๆเริ่มพูน
มาถึงจุดนี้ ระหว่างดูดกลืนนั้น
นางจำเป็นของดูดเลือดจากแกนกายของบุรุษเพศไปพร้อมกับน้ำกามด้วย
นางมารสาวไม่รีรอแต่อย่างใด นางเริ่มเปลี่ยนจากดูดอมมาเป็นใช้ฟันของนางกัดทึ้งลงบนหนังและเนื้อของแกนกายของจอมยุทธ์เด็กหนุ่ม เริ่มจากการกัดเบาๆก่อนและเริ่มมาเพิ่มน้ำหนักในการทิ้งลงไปตรงแกนกลางมากขึ้นเรื่อยๆ
ความสุขสมของจอมยุทธ์เด็กหนุ่ม เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดสุดแสนจะบรรยายแทน
อ๊าก..............!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เขาตะโกนสั่นพร้อมกับร่างที่ดิ้นไปมาราวกับปลาเกยตื้น
นางมารสาวเปลี่ยนมากัดขย้ำตรงนี้ทีตรงนู้นที
แต่ละครั้งนั้นทิ้งน้ำหนักของฟันลงมาอย่างไม่ใยดี สร้างความเจ็บปวดแกจอมยุทธ์เด็กหนุ่มสุดที่จะทนทานได้
เลือดเริ่มไหลออกมาจากทางปลายยอด
นางมารสาวก็ค่อยดูดเอาน้ำกามที่ผสมกับเลือดจากแกนกาย สูดเข้าไปในร่างของตัวเอง
อ๊ากๆๆ..................................................!!!!!!!!!!!!!!!!! (จอมยุทธ์เด็กหนุ่มระเบิดน้ำกามลงเข้าสู่ลำคอของนางมารสาว แต่นางก็ไม่ได้รั้งปากออกแต่อย่างใด กลับค่อยๆสูบกินเข้าไปจนหมด)
นางปลดปล่อยแกนกายที่บัดนี้ห่อเหี่ยวหมดสภาพออกจากปากของนาง
เพียงเท่านี้ ผิวพรรณของนางกับดูเปล่งปลั่งเป็นกระกาย
เลือดลมสูดฉีดไปเลี้ยงร่างกายดีกว่าเดิม โฉมหน้าก็ดูอ่อนเยาว์ลงกว่าแต่ก่อน นี่คือ
อมตะวิชา สามารถช่วยคืนความสาวได้อย่างอัศจรรย์ นางเอามือเช็ดคาบเลอะออกจากปากพลางลุกขึ้น
โค้งคำนับให้แก่จอมยุทธ์เด็กหนุ่มไปหนึ่งครั้ง
“ขอบคุณท่านจอมยุทธ์ที่ส่งเสริม ให้ข้าสำเร็จวิชาขั้นสูง”นางมารสาวพูดจบมือขวาก็สะบัดแส้ในมือออกไป
เพี้ยว...........!!! แส้ของนางพันวนรอบแกนกายของจอมยุทธ์เด็กหนุ่ม
กระฉูด...........................................!!!! (กองเลือดแดงจำนวนมากสาดกระจายราวกับสายน้ำ
มันปกคลุมไปทั่วบริเวณ จนเปลี่ยนจากพื้นที่ขาวโพลนจนกลายเป็นแดงฉาน)
จอมยุทธ์เด็กหนุ่มคนนั้นสิ้นลมไปแล้ว
ส่วนนางมารสาวก็กระโดดแล้วลอยตัวขึ้นหายไปในอากาศ
จบ
(ขอโทษนะครับที่หายไปนาน คราวนี้ลองเขียนแบบแนวกำลังภายในบ้าง ไงก็โพสต์ความคิดเห็นกันมาเยอะๆนะครับ จะได้รู้ว่าดีไม่ดีตรงไหน ขอบคุณครับ)